ทัวร์ญี่ปุ่น TOKYO OARAI FUKUSHIMA FUJI 6วัน 4คืน
ซุปตาร์ โตเกียว เนยกรอบ มั้ยคะ
กำหนดการเดินทางเดือน กรกฏาคม – กันยายน 2565
เที่ยว เมืองโออาราย จ.อิบารากิ เมืองชายหาดทะเลญี่ปุ่นตะวันออก ไฮไลท์!! ลิ้มรส ปิ้งย่าง อาหารทะเลสด ณ ตลาดปลาโออาไร ขอพร ณ ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ รับพลังงานบวก ณ เสาโทริแห่งคามิอิโซะ
เที่ยว จ.ฟุกุชิมะ ชม ทะเลสาบโกะชิคินุมะ หรือ บึงห้าสี เยือนเมืองซามูไร พร้อมชมปราสาทสึรุกะ ณ เมืองไอสึ ขอพร ณ วัดเอ็นโซจิ ต้นกำเนิดวัวแดงอากะเบโกะ ฟรี!! แช่เท้า ผ่อนคลายความเมื่อยล้า ณ สถานีรถไฟ ยูโนะคามิ ออนเซ็น เข้าชมหมู่บ้านโบราณ โออุจิ จูคุ พร้อมลิ้มลองอาหารท้องถิ่น “โซบะต้นหอม” ชมความงาม ผาล้านปี โทโนะเฮทสึริ
สักการะ ศาลเจ้านิกโกะโทโชกุ ที่นิกโก้ ซึ่งได้รับการรับรองเป็นมรดกโลก จาก UNESCO ขอพรความรัก ณ ศาลเจ้าฟูตาระซัง
ย้อนยุคไปกับ หมู่บ้านเอโดะจิ๋ว ณ คาวาโกเอะ จ.ไซตามะ
ขึ้นภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 สัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น เรียนรู้แล้ะสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น ผ่านขั้นตอนพิธีการชงชา บุฟเฟ่ต์ขาปู อาบน้ำแร่ธรรมชาติ
สักการะสิ่งศักด์สิทธิ์ ณ วัดอาซากุสะ พร้อมเดินชิม ของอร่อยๆ ที่ ถนนนากามิเสะ ถ่ายรูปคู่ หอคอยโตเกียวสกายทรี ริมแม่น้ำสุมิดะ ช้อปปิ้งจุใจ ชินจูกุ จุดเช็คอินแห่งใหม่ จอ LED ยักษ์ กับภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริง
พีเรียดเดินทาง ตลอดเดือน กรกฏาคม – กันยายน 2565
ไฮไลท์ทัวร์
ทัวร์ญี่ปุ่น TOKYO OARAI FUKUSHIMA FUJI 6วัน 4คืน โดยสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ020)
ฤดูร้อน
ทัวร์นี้เหมาะกับช่วงฤดูร้อน
9
มื้ออาหาร
3.0
ดาวที่พัก
AIR ASIA X (XJ)
การเดินทาง
รายละเอียดทัวร์
เดินทาง 6 วัน 4 คืน
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ F สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
เหิรฟ้าสู่ เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ600
สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
นำท่านออกเดินทางสู่ จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโตของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น อิบารากิซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโตเกียว เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามมากมาย โดยเฉพาะเทศกาลที่เกี่ยวกับดอกไม้ ที่มีให้ชมตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเป็นเจังหวัดที่มีการผลิตนัตโตะ หรือ ถั่วเน่าญี่ปุ่น มากที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)
เดินทางสู่ ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ (Oarai Isosaki Shrine) ศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นหนึ่งในเสาโทริอิขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคคันโต ถูกเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งจังหวัด และได้รับความเชื่อถือมาอย่างยาวนานในฐานะเทพเจ้าผู้ให้ความคุ้มครองการคมนาคมทางทะเล และความสงบสุขภายในครอบครัว นำท่านรับพลังงานบวก ณ เสาโทริแห่งคามิอิโซะ (Kamiiso no Torii) โทริอิสีเทาที่นิ่งสงบ บนโขดหินท่ามกลางฟองคลื่นสีขาวที่สาดกระเซ็น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าโอนามุจิโนะมิโคโตะ และ เทพเจ้าสุคุนะฮิโคนะโนะมิโคโตะ สร้างขึ้นตั้งแต่ 29 ธันวาคม ค.ศ.856 รวมทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวมากมายมาเฝ้าคอยเพื่อเก็บภาพช่วงเวลาที่แสงตะวันสาดส่องขึ้นสู่ขอบฟ้า
จากนั้น ออกเดินทางสู่ ตลาดปลาโออาไร (Oaraicho) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ท่านสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดใหม่ส่งตรงมาจากท่าเรือประมงโออาไร อาทิ ข้าวหน้าปลาดิบ หรืออาหารทะเลปิ้งย่าง นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลตากแห้งที่ทำเองโดยชาวประมง ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นของฝากอีกด้วย อิสระรับประทานอาหารทะเลสดๆ แบบปิ้งย่าง เพลิดเพลินกับหลากหลายเมนู ปลาสดๆ เช่น ปลาอังโค ปลาชิราสุ (ปลาข้าวสาร) ตามแต่ฤดูกาล หอยเชลล์ หอยตลับ หอยนางรม หมึกย่างเนย และกุ้ง เป็นต้น
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ตลาดปลาโออาไร (1) Cash Back 1000Yen/Person (By Guide)
ออกเดินทางสู่ จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) เป็นจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ เป็นเมืองที่เคยเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว และสึนามิ รวมถึงภัยพิบัติจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ด้วยที่เป็นเมืองที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อาหารทะเลสด ผลไม้อร่อย สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม รวมถึงความร่วมแรงร่วมใจของคนท้องถิ่นที่ตั้งใจให้การท่องเที่ยวมาช่วยให้ จังหวัดฟุกุชิมะ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทำให้เมืองนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) นำท่านชมความงามของ ทะเลสาบโกะชิคินุมะ (Goshikinuma) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติบันได–อาซาฮี บริเวณนี้มีทั้งทะเลสาบ บึงน้อยใหญ่รวมทั้งบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่ง ประกอบด้วยบึง ได้แก่ บิชาโมนุมะ (บึงใหญ่ที่สุด), อาคานุมะ, มิโดโรนุมะ, ทัตสึนุมะ , เบนเทนุมะ (Bentenuma), รุรินุมะ, อาโอนุมะ และยางินุมะ ทะเลสาบแห่งนี้เกิดการจากระเบิดของภูเขาไฟบันไดเมื่อปีค.ศ.1888 การระเบิดทำให้แร่ธาตุต่างๆ ยังหลงเหลืออยู่ในน้ำ ทำให้ส่งผลต่อสีของน้ำในบึงเมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์จะเห็นเป็นสีสันต่างๆ เช่น สีเหลือง, สีเขียวอมแดง, สีแดง ไปจนถึงสีฟ้าเข้ม คนญี่ปุ่นจึงเรียกที่นี่ว่า โกะชิคินุมะ ที่แปลว่า บึงน้ำห้าสี นั่นเอง กิจกรรมยอดนิยมสำหรับบึงแห่งนี้ คือ การเช่าเรือพาย (สำหรับราคาโปรดสอบถามหน้างาน) บริเวณนี้ยังมีร้านขายของ คาเฟ่เล็กๆ ให้ท่านได้เพลิดเพลินชมความงดงามที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้าง และถ่ายภาพเก็บความประทับใจตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
mt. inn “マウント イン” หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางไปยัง วัดเอ็นโซจิ (Enzoji Temple) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง) วัดเก่าแก่คู่เมืองยานาอิสุ ต้นกำเนิดของ วัวแดงอากะเบโกะ ย้อนไปเมื่อ 1,200 ปีก่อน เกิดแผ่นดินไหวจนอุโบสถเสียหาย จำเป็นต้องทำการซ่อมแซม แต่การขนย้ายเสาเพื่อการซ่อมแซมนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่แล้วอยู่ก็มีวัวสีขนแดงปรากฎตัวขึ้น จึงนำมาช่วยขนย้ายเสาและวัสดุก่อสร้างต่างๆ ทำให้การซ่อมแซมนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จึงได้มีการสร้างรูปปั้นวัวขึ้นมาด้านหน้าพระอุโบสถ อีกทั้งภายในอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระอักโษภยพุทธะองค์ใหญ่ ผู้คนเดินทางมาสักการะอย่างเนืองแน่น ด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยม เพื่อนำความสุขมาสู่ทุกคน บริเวณวัดยังถือเป็นจุดชมซากุระ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง อีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไอสุ (Aizu) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมซามูไร ไม่ว่าจะเป็นปราสาทหรือตัวเมืองที่ยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุคสมัยโบราณ นอกจากนี้ไอสุยังมีมนต์เสน่ห์เรื่องของออนเซ็น (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) อีกด้วยนำท่านสู่ ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือ ปราสาทนกกระเรียน เป็นเพียงแห่งเดียวที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ ปราสาทหลังคาสีเเดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองไอสุวาคามัทซึ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟไอสุวาคามัทซึ เดิมมีชื่อว่า ปราสาทคุโระคะวะ (Kurokawa Castle) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1384 โดยตระกูลอะชินะ แต่เกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1611 ทำให้ปราสาทเสียหายหนักและได้มีการบูรณะและปรับจากปราสาท 7 ชั้น เหลือเพียง 5 ชั้นเท่านั้น ไฮไลท์!!! ปราสาทแห่งนี้ ถือเป็นอนุสรณ์สถานที่ยังทิ้งร่องรอยของเหล่านักรบซามูไรกลุ่มสุดท้ายในญี่ปุ่น ที่ได้เลือกปลิดชีพตัวเองลง ณ สถานที่นี้ เดินทางสู่ เมืองยูโนะคามิ ออนเซน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นเมืองตากอากาศออนเซนเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฟูกุชิมะ ที่เดินทางได้ค่อนข้างสะดวกเพราะอยู่ติดกับ สถานีรถไฟยูโนคามิ ออนเซ็น (Yunokami Onsen Station) โดยเป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มีอาคารสถานีทำจากหลังคาแบบญี่ปุ่นโบราณ !!!ไฮไลท์ อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการแช่เท้าผ่อนคลายตามอัธยาศัย ณ จุดออนเซนเท้าที่สถานีแห่งนี้
รับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านโออุจิ จุคุ (3) พิเศษ!! อิ่มอร่อยกับเมนูท้องถิ่น โซบะต้นหอม (Kagi Soba)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโออุจิ จูคุ (Ouchi Juku) บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะถูกสร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนาๆ เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยรวมมีบ้านโบราณประมาณ 40 – 50 หลัง ในอดีตสมัยเอโดะ การคมนาคมยังไม่สะดวกสบาย หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเสมือนแหล่งที่พัก ตั้งขนาบข้างถนนหลักที่มีชื่อว่าถนนชิโมสึเคะ ถนนเส้นนี้เคยเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมและการค้า เมื่อ พ.ศ.2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโออุจิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีนักท่องมาเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้กว่า 1.2 ล้านคนต่อปี
นำท่านชม หน้าผาล้านปี โทโนะเฮทสึริ (Tonohetsuri) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่าน กว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชื่อ โทโนะเฮทสึริ เป็นภาษาถิ่นของไอสึ แปลว่า หน้าผา และด้วยรูปร่างหน้าตาของหน้าผาชันๆ ที่ดูคล้ายกับเจดีย์ จึงเป็นที่มาของชื่อโทโนะเฮทสึริ หรือ หน้าผารูปเจดีย์ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่โรงแรม
อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
mt. inn “マウント イン” หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองนิกโกะ (Nikko) จังหวัดโทจิกิ (Tochigi) สำหรับนิกโกะ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ มีมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ และทางวัฒนธรรมมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสวยงามของวัดและศาลเจ้าต่างๆที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
นั่งรถบัสผ่านชม สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) ตั้งอยู่ ณ ประตูทางเข้าศาลเจ้าและวัดนิกโกะ เป็นของศาลเจ้าฟูตะระซัง เป็น 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับสะพานคินไตเคียว ที่อิวาคูนิกับสะพานซารุฮาชิ ที่ยามานาชิ สะพานชินเคียวเป็นสะพานโค้งสีแดง ทอดข้าม แม่น้ำไดยะ (Daiya river) ตรงเชิงปากทางขึ้นสู่แหล่งมรดกโลก มีความยาว 28 เมตร กว้าง 7 เมตร สูงจากระดับน้ำประมาร 10 เมตร สร้างจากไม้ โดยมีเสาหินรองรับน้ำหนัก สมัยก่อนสะพานนี้ใช้เฉพาะเจ้านายชั้นสูงหรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นในการข้ามแม่น้ำไดยะ (ไม่รวมค่าข้ามสะพาน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละ 500 เยน)
จากนั้นนำท่านสู่ ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ศาลเจ้าโทโชกุนั้นก็เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญต่อนิกโก้และต่อญี่ปุ่นมาก เพราะเป็นสุสานของโชกุน โตกุกาว่า อิเอยาสุ ซึ่งเป็นโชกุนที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น รวมถึงที่นี่ยัง มีการอัญเชิญดวงวิญญาณอีกสองดวงคือโตโยโตมิ ฮิเดโยชิ ไดเมียวคนสำคัญ และมินาโมโตะ โยริโตโมะ ผู้ที่จัดตั้งรัฐบาลทหาร มาสถิตย์ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ศาลเจ้านิกโกะโทโชกุ ได้รับการรับรองเป็น มรดกโลก จากองกรณ์ยูเนสโก้ บริเวณทางเข้ามีแผ่นหินจารึกตัวอักษรว่า โทโชกุและโทริอิ หินขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่ เป็นจุดรับพลังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 400 ปี ภายในศาลเจ้ามีประติมากรรมสวยงามจำนวนมาก ทั้ง เจดีย์ห้าชั้น สีสันสวยงาม มีความสูงถึง 36 เมตร ที่ใต้หลังคาชั้นแรกจะมีประติมากรรมสิบสองราศี หรือจะเป็น ประติมากรรมลิงสามตัว ที่แสดงความหมายว่าไม่ดู ไม่พูด ไม่ฟังสิ่งที่ไม่ดี นอกจากนี้ยังประติมากรรม แมวนอน ที่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น อยู่ที่ประตูซากาชิตะมง ซึ่งแมวนอนนั้นสื่อถึง สันติภาพ นั่นเอง จากนั้นนำท่านขอพรความรัก ณ ศาลเจ้าฟูตะระซัง (Futarasan Shrine) ไม่ใช่แต่ด้านความรักแบบหนุ่มสาวเท่านั้น ทั้งด้าน ครอบครัวหรือเพื่อน ก็สามารถทดสอบขอความรัก ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้ ภายในศาลเจ้า จะมีสถานที่ที่จะทำให้โชคดีด้านความรักอยู่มากมาย เช่น “จุดปาหัวใจขอให้สมหวังด้านความรัก“ เมื่อปาแผ่นรูปหัวใจไปที่เสาแห่งความรัก ยิ่งใกล้เสาแห่งความรักเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนคำขอจะยิ่งใกล้ความจริง นอกจากจะมีชื่อเสียงด้านขอความรักแล้วนั้น ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีผู้คนนิยมมาขอพรด้านโชคลาภอีกด้วย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดไซตามะ (Saitama) อยู่ในภูมิภาคคันโต มีความเจริญมากเพราะอยู่ติดโตเกียว มีเมืองชิชิบุ ที่โดดเด่นเรื่องธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เมืองโอมิยะและคาวาโกเอะ ที่เป็นแหล่งรวมจุดช้อปปิ้งและสถานที่ที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชั่วโมง)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม
ホテル縁の杜河口湖 Yukari No Mori หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
จากนั้นให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการ แช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ที่มีความสูงเหนือจากระดับน้ำทะเล 3,776 เมตร ภูเขาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องความสวยงามที่ธรรมชาติได้มอบมาให้อย่างลงตัว และยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นตลอดทุกฤดูกาล นำท่านขึ้นสู่ชั้นที่ 5 ของภูเขาไฟฟูจิ (ขอสงวนสิทธิ์ไม่ขึ้น ในกรณีที่อากาศไม่เอื้ออำนวย หรือ ทางขึ้นปิด) ที่ทุกท่านจะได้เห็นถึงความสวยงามของตัวภูเขาและวิวโดยรอบของภูเขาไฟฟูจิ ให้ทุกท่านได้ถ่ายภาพความประทับใจเก็บไว้ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปภูเขาไฟฟูจิในหลากหลายบรรยากาศได้อีกด้วยอิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที)โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้นมีขั้นตอนมากมายเริ่มตั้งแต่การชงชาการรับชาและการดื่มชาทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธีรายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมากพิธีชงชานี้ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียวยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วยและจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ โตเกียว (Tokyo) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต (Kanto) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ในอดีตคือเมืองเอโดะ (Edo) มีรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote) วนเป็นวงกลมอยู่ใจกลางเมือง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) จากนั้นนมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ประกอบกับภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “Kaminari Mon หรือ ประตูฟ้าคำรณ” บริเวณทางเข้าสู่ตัววิหารจะมี ถนนนากามิเซะ (Nakamise Shopping Street) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย เช่น หน้ากาก ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก และขนมนานาชนิด ทั้ง เมล่อนปังในตำนาน ดังโงะหนึบหนับ ขนมนิงเงียวยากิไส้ถั่วแดง และน้องปลาขนมไทยากิ ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก
ใกล้กันพาท่านเดินไปถ่ายรูปคู่กับ หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (Tokyo Sky tree) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก จัดเป็นแลนด์มาร์กอีกอย่างหนึ่งของกรุงโตเกียว บริเวณริมแม่น้ำสุมิดะ เป็นหอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.2012 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร และหอซีเอ็น ทาวเวอร์ ในนครโทรอนโต ของแคนาดา มีความสูง 553 เมตร ทิวทัศน์ของ หอคอยโตเกียวสกายทรี ที่บรรจุเทคโนโลยีแนวหน้าสุดสามารถมองเห็นได้จากละแวกวัดอาซากุสะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบเมืองเก่าของเอโดะ (ไม่รวมค่าขึ้นหอคอย)
นำท่านช้อปปิ้ง ย่านชินจุกุ (Shinjuku) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ให้ท่านอิสระและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย ห้ามพลาด!!! จุดเช็คอินแห่งใหม่ของชาวโซเชี่ยล นั่นก็คือ แมวยักษ์ 3 มิติ ที่โผล่บนจอแอลอีดีมีขนาดมหึมา จอมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร (1,664 ตารางฟุต) เสียงที่ออกจากลำโพงคุณภาพเกรดดี ความละเอียดภาพระดับ 4K ถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่ให้ภาพเสมือนจริงปรากฎเป็นภาพแมวเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว นอกจากแมวยักษ์แล้ว ท่านยังสามารถรับชมโฆษณาต่างๆ ที่ถูกครีเอทให้เป็นภาพ 3 มิติผ่านจอแอลอีดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น แพนด้า, รองเท้าไนกี้, น้องหมา Pompompurin, จานบิน UFO แม้แต่ หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น ท่านสามารถรับชมและเก็บภาพได้ตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับที่พัก ที่เมืองนาริตะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
Narita Gateway Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว นำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (โดยรถบัสโรงแรม)
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ601
เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**
สำหรับลูกค้าท่านที่ไม่เอาตั๋วเครื่องบิน (JOINLAND)
หักออกจากราคาทัวร์ 7,900 บาท/ท่าน
*ท่านใดมีไฟล์ทบินภายในประเทศต่อ รบกวนจองเป็นสายการบินแอร์เอเชียเท่านั้น*
** ทั้งนี้หากสายการบินไฟล์ทอินเตอร์เกิดเที่ยวบินล่าช้า ทางบริษัทจะรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายเฉพาะสายการบินภายในประเทศที่เป็นสายการบินเครือเดียวกันกับไฟล์ทอินเตอร์ และรบกวนแจ้งพนักงานขายล่วงหน้าก่อนทำการซื้อตั๋วภายในประเทศทุกครั้ง เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง **
มื้ออาหาร
มื้อเช้า
มื้อกลางวัน
มื้อเย็น
วันที่ 1
วันที่ 2
วันที่ 3
วันที่ 4
วันที่ 5
วันที่ 6
โรงแรมและที่พัก
วันที่
โรงแรมและที่พัก
ระดับหรือเทียบเท่า
1
–
–
2
3
4
5
6
–
–
กรุณา กรอกข้อมูลการจอง
Thank you for reading this post. Don't forget to follow! | express opinions or suggestions