วันอังคาร, เมษายน 1, 2025
0
  • No products in the cart.
Pordoi Pass: ประตูสู่โดโลไมต์ที่คุณต้องแวะ

Pordoi Pass: ประตูสู่โดโลไมต์ที่คุณต้องแวะ

เมื่อคุณเริ่มต้นเดินทางจากมิวนิค มุ่งหน้าสู่ความงดงามของเทือกเขาโดโลไมต์ เส้นทางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์จะนำพาคุณผ่านเมืองสวยอย่าง Mittenwald (มิทเทนวาลด์) และ Innsbruck (อินส์บรุค) ก่อนที่จะเข้าสู่หัวใจของเทือกเขาแอลป์ และแน่นอนว่าระหว่างทางนั้นเอง มีอีกหนึ่งจุดที่นักเดินทางไม่ควรพลาด นั่นคือการแวะเยือน Pordoi Pass ช่องเขาที่งดงามราวกับภาพวาด

Pordoi Pass ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างหุบเขา Val di Fassa และ Livinallongo del Col di Lana เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันกว้างไกลของเทือกเขาโดโลไมต์ได้อย่างงดงาม ยอดเขาสูงตระหง่านที่เรียงรายสลับซับซ้อนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือนทุกคน

ขับรถโอบล้อมขุนเขา: เส้นทางจาก Lake of Carezza สู่ Pordoi Pass เปรียบเสมือนการเดินทางเข้าสู่ใจกลางความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ โค้งถนนคดเคี้ยวพาเราผ่านทิวเขาสูง และหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์แบบอิตาลีดั้งเดิม ทุกมุมมองรายล้อมล้วนเป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นหุบเขาลึกที่ซ่อนตัวภายใต้สายหมอกจางๆ หรือยอดเขาที่ดูเหมือนจะสัมผัสท้องฟ้าในยามเช้า

Pordoi Pass: หลังคาแห่งโดโลไมต์

Pordoi Pass (Passo Pordoi) ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งโดโลไมต์” (Roof of the Dolomites) ด้วยความสูง 2,239 เมตร คุณจะรู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกอีกใบ ทิวทัศน์ของภูเขาที่ลดหลั่นซ้อนกัน รวมถึงเส้นทางที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่ตรึงตาตรึงใจ

พักกาย สบายใจกับอาหารท้องถิ่น: ที่นี่เป็นจุดแวะพักที่ยอดเยี่ยม ให้คุณได้ดื่มด่ำกับอาหารท้องถิ่นรสเลิศ มื้อเที่ยงของเรามาพร้อมกับรสชาติของธรรมชาติ ตั้งแต่ชีสและขนมปังหอมกรุ่น ไปจนถึงพาสต้าแบบโฮมเมด คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารในร้านอาหารที่มีระเบียงเปิดโล่ง ซึ่งมองเห็นวิวภูเขาอันงดงามได้อย่างเต็มตา

บทนำสู่ Passo Pordoi (Introduction to Pordoi Pass)

Passo Pordoi หรือ Pordoi Pass ถือเป็นหนึ่งในช่องเขาสูงที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดในเทือกเขา Dolomites ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ในประเทศอิตาลี ด้วยความสูงที่น่าประทับใจถึง 2,239 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ช่องเขานี้ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางสัญจรที่เชื่อมต่อหุบเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดศูนย์กลางที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในด้านการท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ และการกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการจักรยาน ความโดดเด่นของ Passo Pordoi ยังได้รับการเสริมให้เด่นชัดยิ่งขึ้นจากการเป็นส่วนหนึ่งของถนน Great Dolomites Road ซึ่งเป็นเส้นทางที่สวยงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อเชื่อมต่อเมือง Bolzano กับ Cortina d’Ampezzo การเดินทางผ่าน Passo Pordoi จึงเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่งเข้ากับร่องรอยของประวัติศาสตร์และความท้าทายของการกีฬาไว้อย่างลงตัว Passo Pordoi ตั้งอยู่ระหว่าง Sella Group ทางทิศเหนือ และ Marmolada Group ทางทิศใต้ โดยทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่าง Arabba ซึ่งอยู่ในเขต Livinallongo del Col di Lana กับ Canazei ใน Fascia Valley ผ่านทางถนน SR48 ที่มีชื่อเสียง

นอกจากนี้ ช่องเขานี้ยังเป็นจุดแบ่งเขตแดนทางภูมิศาสตร์และการปกครองระหว่างแคว้น Veneto และ Trentino-Alto Adige การที่ Passo Pordoi ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางระหว่างกลุ่มเทือกเขาที่สำคัญของ Dolomites และเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคต่างๆ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สะดวกและน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจความหลากหลายของ Dolomites จากทุกทิศทาง

พิกัด หรือ ตำแหน่งของ Pordoi Pass

Passo Pordoi ตั้งอยู่ที่พิกัดทางภูมิศาสตร์ที่แม่นยำคือ 46°29′04.92″N 11°50′09.96″E ซึ่งระบุตำแหน่งที่ตั้งอย่างชัดเจนในประเทศอิตาลี ข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางที่ต้องการระบุตำแหน่งของช่องเขาบนแผนที่หรือใช้ระบบนำทาง GPS เพื่อวางแผนการเดินทาง

ระดับความสูงของ Passo Pordoi คือ 2,239 เมตร (7,346 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล ความสูงนี้ทำให้ Passo Pordoi เป็นถนนลาดยางที่สูงเป็นอันดับสองในเทือกเขา Dolomites รองจาก Sella Pass ระดับความสูงที่โดดเด่นนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสภาพอากาศในบริเวณนั้น ซึ่งอาจมีความเย็นและมีลมแรงได้ตลอดทั้งปี แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงามตระการตา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายัง Passo Pordoi มักจะตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพอันกว้างไกลของยอดเขาสูงตระหง่านและหุบเขาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา

Passo Pordoi ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสองกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ ได้แก่ Sella Group ทางทิศเหนือ และ Marmolada Group ทางทิศใต้ Sella Group มีลักษณะเป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ที่มีความโดดเด่นด้วยยอดเขาที่ชันและรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่ Marmolada Group ทางทิศใต้เป็นที่ตั้งของ Marmolada ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขา Dolomites ด้วยความสูงถึง 3,343 เมตร จาก Passo Pordoi นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขาเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน การปรากฏตัวของเทือกเขาทั้งสองนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สร้างภูมิทัศน์อันน่าทึ่งรอบๆ Passo Pordoi ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับผู้รักธรรมชาติและนักผจญภัย และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ

การเดินทางผ่านประวัติศาสตร์ (A Journey Through History)

การก่อสร้างถนน Passo Pordoi ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในการพัฒนาภูมิภาค Dolomites ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง การอนุมัติการก่อสร้างถนน Great Dolomites Road ซึ่งรวมถึงส่วนที่ตัดผ่าน Passo Pordoi เกิดขึ้นในปี 1897 และงานก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 1901 โดยมีสถาปนิก Theodor Christomannos เป็นผู้ออกแบบ ถนนในช่วง Moena-Arabba ซึ่งเป็นส่วนที่รวมถึง Passo Pordoi ได้เปิดใช้งานเมื่อวันที่ พฤศจิกายน 1914 การก่อสร้างถนนสายนี้มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและสัญลักษณ์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการเปิดประตูสู่เทือกเขา Dolomites ให้กับการท่องเที่ยวระดับนานาชาติอย่างแท้จริง การเข้าถึงที่ง่ายขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกสามารถมาสัมผัสความงามของภูมิภาคนี้ได้ ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและการพัฒนาโดยรวม

Passo Pordoi มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญหลายครั้ง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง Passo Pordoi ตั้งอยู่บนแนวชายแดนที่สำคัญระหว่างจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีและราชอาณาจักรอิตาลี ทำให้บริเวณนี้เป็นสมรภูมิที่สำคัญและเกิดการสู้รบที่รุนแรงหลายครั้ง ต่อมาในปี 1962 Maria Piaz และลูกชาย Francesco ได้สร้างกระเช้าไฟฟ้าแห่งแรกที่ Passo Pordoi ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา Terrazza delle Dolomiti ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

บทบาทของ Passo Pordoi ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสุสานทหารออสเตรีย-ฮังการีและเยอรมันที่ตั้งอยู่ใกล้กับช่องเขา สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของทหารเยอรมัน 454 นาย และทหารจากจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี 8,128 นาย ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในปี 1956 ได้มีการฝังทหารเยอรมันอีก 847 นาย ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง รอบๆ บริเวณสุสาน เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิต อนุสรณ์สถานทหารเยอรมันได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1959 สถานที่แห่งนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสูญเสียจากสงครามและความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของ Passo Pordoi ในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้ง

Passo Pordoi ตั้งอยู่ในบริเวณที่อยู่ในเขตหุบเขา Ladin ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีภาษาและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในเทือกเขา Dolomites การก่อสร้างถนน Great Dolomites Road ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวในหุบเขา Ladin ซึ่งช่วยอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เมือง Arabba ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Passo Pordoi เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของหมู่บ้าน Ladin ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและประเพณีเก่าแก่ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Passo Pordoi จึงมีโอกาสได้สัมผัสไม่เพียงแค่ความงามของธรรมชาติ แต่ยังได้เรียนรู้และซึมซับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้อีกด้วย

มรดกของ Fausto Coppi นักปั่นจักรยานชาวอิตาลีผู้ยิ่งใหญ่ มีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับ Passo Pordoi
Passo Pordoi มีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของการปั่นจักรยาน โดยเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน Giro d’Italia ซึ่งเป็นการแข่งขันจักรยานที่มีชื่อเสียงระดับโลก มาตั้งแต่ปี 1937 Fausto Coppi ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Passo Pordoi ด้วยการขึ้นนำบนช่องเขานี้ถึง 5 ครั้ง และคว้าแชมป์ในการแข่งขัน Giro d’Italia ได้ถึง 4 ครั้ง ทำให้ Passo Pordoi กลายเป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันจักรยานที่ท้าทายและสวยงาม เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำเร็จของเขา อนุสาวรีย์ที่อุทิศให้กับ Fausto Coppi ได้ถูกสร้างขึ้นและตั้งอยู่ที่ยอดเขาของ Passo Pordoi นอกจากนี้ Passo Pordoi ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันจักรยานที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น Maratona dles Dolomites และ Arabba-Pordoi Pass Uphill Time Trial ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างต่อเนื่องของช่องเขานี้ในวงการจักรยานระดับนานาชาติ

Passo Pordoi เป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลายได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางที่แสวงหาทัศนียภาพอันงดงาม นักปั่นจักรยานที่ต้องการพิชิตเส้นทางในตำนาน นักเดินป่าที่ต้องการสำรวจธรรมชาติ หรือผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์ Passo Pordoi ก็มีสิ่งที่น่าสนใจสำหรับทุกคน การเดินทางมายัง Passo Pordoi จึงเป็นประสบการณ์ที่ครบครันและน่าจดจำ

Content น่าสนใจอื่นๆ : Mittenwald (มิทเทนวาลด์): หมู่บ้านแห่งเสียงดนตรีและศิลปะในหุบเขา แห่งบาวาเรีย

Thank you for reading this post. Don't forget to follow! | express opinions or suggestions

the authorTravelProTeam